ชนิดพืช ข้าว ประเภทแปลง(ทั่วไป/ต้นแบบ) ทั่วไป .
ตำบล พราน อำเภอ ขุนหาญ จังหวัด ศรีสะเกษ .
1. ข้อมูลพื้นฐาน
1.1 ชื่อกลุ่ม แปลงใหญ่ข้าวบ้านโนนสวรรค์ (กลุ่มเกษตรกร/กลุ่มวิสาหกิจชุมชน/กลุ่มสหกรณ์)
1.2 สมาชิก จำนวน 55 ราย
1.3 จำนวนแปลงย่อย 63 แปลง
1.4 สมาชิก จำนวน 55 ราย
1.5 พื้นที่รวม จำนวน 673 ไร่
1.6 ความเหมาะสมของพื้นที่ ดังนี้
– S1 จำนวน – ไร่ – S2 จำนวน 572 ไร่
– S3 จำนวน – ไร่ – N จำนวน – ไร่
– ป่าไม้ จำนวน – ไร่
1.7 แหล่งน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ มี หรือ ไม่มี
– ห้วยทา
1.8 ชนิดพืชที่ผลิต (ระบุ) ข้าวหอมมะลิ .
1.9 มาตรฐานที่ใช้ในการผลิต
– เมล็ดพันธ์ข้าว สมาชิก – ราย จำนวน – ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย – กก./ไร่
– GAP สมาชิก 22 ราย จำนวน 487 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 450 กก./ไร่
– Organic สมาชิก 30 ราย จำนวน 150 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 430 กก./ไร่
1.10 ผลผลิตรวม 280 ตัน
1.11 ข้อมูลผู้บริหารจัดการกลุ่ม
1. ผู้จัดการแปลง เกษตรอำเภอขุนหาญ
2. ผู้ช่วยผู้จัดการแปลง เกษตรตำบลพราน
3. ประธานกลุ่ม นางสมศักดิ์ อ่อนตา หมายเลขโทรศัพท์ 088-4806468 .
1.12 ที่ตั้งที่ทำการกลุ่มฯ 4 ม.12 บ้านโนนสวรรค์ ตำบลพราน อำเภอ ขุนหาญ จังหวัด ศรีสะเกษ .
1.13 พิกัดแปลง (จำนวน 5 จุดหลัก)
– ทิศเหนือ X = 445439, Y = 1616740 – ทิศใต้ X = 445267 , Y = 1615428
– ทิศตะวันออก X = 446015 , Y = 1616084 – ทิศตะวันตก X = 444096 , Y = 1616046
– จุดกึ่งกลาง X = 445316 , Y = 1615836
2. เป้าหมายการพัฒนา
2.1 ลดต้นทุนการผลิต (ต้องลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 20)
– ต้นทุนการผลิต (เดิม) 3,400 บาท/ไร่
– ต้นทุนการผลิต (เป้าหมาย) 2,760 บาท/ไร่
– คิดเป็นร้อยละของต้นทุนที่ลดลง
.
หมาเหตุ : 1. ให้อธิบายรายละเอียดในแต่ละกิจกรรม เช่น
1.1 อัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ (เดิม) กี่กิโลกรัม/ไร่ (เป้าหมาย) กี่กิโลกรัม/ไร่
1.2 การใส่ปุ๋ย(ใส่กี่ครั้ง/ใช้สูตรใด/อัตราเท่าไหร่) ทั้งในส่วนของปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี
1.3 การใช้สารป้องกันกำจัดวัชพืช/ศัตรูพืช(ใช้กี่ครั้ง/อัตราเท่าไหร่)
2.2 เป้าหมายการเพิ่มผลผลิต (ต้องเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20)
– ผลผลิต (เดิม) 450 กิโลกรัม/ไร่
– ผลผลิต (เดิม) 540 กิโลกรัม/ไร่
– คิดเป็นร้อยละของผลผลิตที่เพิ่มขึ้น 20 .
2.3 การเพิ่มมูลค่าผลผลิต เช่น
– การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวตามมาตรฐาน จำนวน – ราย พื้นที่จำนวน – ไร่(ราคาสินค้า
เมล็ดพันธุ์ข้าว 21 บาท/กก. ราคาสินค้าทั่วไปของกลุ่ม – บาท/กก. เพิ่มขึ้น – บาท/กก.)
– การผลิตสินค้าตามมาตรฐานGAP จำนวน – ราย พื้นที่จำนวน – ไร่(ราคาสินค้าGAP – บาท/กก.
ราคาสินค้าทั่วไปของกลุ่ม – บาท/กก. เพิ่มขึ้น – บาท/กก.)
– การผลิตสินค้าตามมาตรฐานOrganic จำนวน – ราย พื้นที่จำนวน – ไร่(ราคาสินค้าOrganic – บาท/กก.
ราคาสินค้าทั่วไปของกลุ่ม – บาท/กก. เพิ่มขึ้น – บาท/กก.)
2.4 การบริหารจัดการกลุ่ม (มีแผนและแนวทางในการบริหารจัดการกลุ่ม) ดังนี้
1 มีแผนในการบริหารจัดการกลุ่มด้านใด อย่างไรบ้าง (อธิบาย)
1.1 จัดตั้งผู้จัดการกลุ่มย่อยควบคุมสมาชิกด้วยกันเอง กลุ่มละไม่เกิน 30 ราย
1.2 จัดตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ดังนี้
– คณะกรรมการด้านเมล็ดพันธุ์
– คณะกรรมการด้านเครื่องจักรกลการเกษตร
– คณะกรรมการด้านอารักขาพืช
– คณะกรรมการด้านปุ๋ย
2 มีแผนในการผลิตและพัฒนาคุณภาพผลผลิตอย่างไร (อธิบาย)
– ผลิตให้ได้มาตรฐานอินทรีย์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวน ผลผลิตทั้งหมด
3 มีแผนการตลาดและแผนการพัฒนาด้านการตลาดอย่างไร (อธิบาย)
– ขายข้าวสาร โดยการบรรจุภัณฑ์สูญากาศ เป็น สินค้าข้าวอินทรีย์
2.5 การจัดการด้านการตลาด ดังนี้
1 สินค้าของกลุ่มประกอบด้วยอะไรบ้าง ปริมาณเท่าไร เช่น
1.1 สินค้า(ข้าว) ทั่วไป ผลผลิตรวม 185 ตัน ราคา 15,000 บาท/ตัน
1.2 สินค้าแปรรูป ได้แก่ ข้าวสาร ปริมาณ 80 ตัน ราคา50,000 บาท/ตัน
2 ตลาดในการจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม
2.1 ตลาดภายในประเทศที่ใดบ้าง คิดเป็นปริมาณเท่าไร (ตัน)
– โรงสีข้าวที่ทำ MOU ร่วมกัน จำนวน 80 ตัน
– การออกบู๊ตจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า จำนวน 10 ตัน
3. กิจกรรมเพื่อบรรลุเป้าหมาย(ให้อธิบายว่ามีวิธีการและขั้นตอนในการดำเนินการอย่างไร)
3.1 การลดต้นทุนการผลิต (ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20) เช่น
– การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยหมัก,ปุ๋ยคอก
– การใช้สารชีวภันฑ์ในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช
– รวมกลุ่มการชื้อปัจจัยการผลิต
3.2 การเพิ่มผลผลิต (ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20) เช่น
– ใช้พันธุ์ดี
– ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ
3.3 การพัฒนาคุณภาพผลผลิต เช่น
– การตรวจรับรองมาตรฐาน GAP และ Organic
3.4 การบริหารจัดการเช่น
– วางแผนบริการจัดการดำเนินการตลาด
– วางแผนบริการจัดการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพ
– การวางแผนบริหารเครื่องจักรกล
3.5 การตลาดเช่น
– การดำเนินการหากลุ่มลูกค้าสินค้าอินทรีย์ทั้งในและต่างประเทศ
– การออกบู๊ทจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า
4.การเปลี่ยนแปลง เช่น
4.1 ต้นทุนการผลิตต่อไร่ลดลงเมื่อเทียบกับการทำนาหว่าน
– นาหว่านต้นทุน 3,400 บาท/ไร่
– นาหยอดต้นทุน 2,760 บาท/ไร่ ลดลง 640 บาท/ไร่ คิดเป็น 23.20 %
– นาดำต้นทุน 3,200 บาท/ไร่ลดลง 300 บาท/ไร่ คิดเป็น 10.0 %
4.2ผลผลิตต่อไร่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับการทำนาหว่าน
– นาหว่านผลผลิต 450 ก.ก./ไร่
– นาหยอด 550 ก.ก./ไร่ เพิ่มขึ้น 100 ก.ก./ไร่ คิดเป็น 18.18 %
– นาดำ 580 ก.ก./ไร่ เพิ่มขึ้น 130 ก.ก./ไร่ คิดเป็น 23.63 %
4.3 ผลผลิตมีคูณภาพและมาตรฐาน เช่น
– มาตรฐาน GAP
– มาตรฐาน Organic
4.4 มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้น เช่น
– ตลาดภายในประเทศ
– ตลาดต่างประเทศ
4.5 มีการบริหารจัดการด้านต่างๆ เช่า
– การบริหารจัดการกลุ่ม
– การบริหารจัดการเครื่องกล
– การบริหารจัดการผลผลิต
5. มูลค่าเพิ่มจากการพัฒนา เช่น
5.1 ราคาของสินค้าเพิ่มขึ้นจากเดิมราคา 10 บาท/ก.ก.
เพิ่มขึ้น 15 บาท/ก.ก. คิดเป็น 50 %
5.2 รายได้ที่เพิ่มขึ้น/ไร่ จากเดิม 4,300 บาท/ไร่ เป็น 8,250บาท/ไร่
เพิ่มขึ้น 3,950 บาท/ไร่ คิดเป็น 91 %