ชนิดพืช ข้าว ประเภทแปลง (ทั่วไป/ต้นแบบ) ทั่วไป
ตำบล โพธิ์วงศ์ อำเภอ ขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ
1. ข้อมูลพื้นฐาน
1.1 ชื่อกลุ่ม แปลงใหญ่ข้าวตำบลโพธิ์วงศ์ (กลุ่มเกษตรกร/ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน/ กลุ่มสหกรณ์)
1.2 สมาชิก จำนวน 90 ราย
1.3 เกษตรกรที่เป็น Smart Farmer จำนวน 5 ราย
1.4 จำนวนแปลงย่อย 106 แปลง
1.5 พื้นที่รวมจำนวน 1,004 ไร่
1.6 ความเหมาะสมของพื้นที่ ดังนี้
– S1 จำนวน – ไร่ – S2 จำนวน 1,004 ไร่
– S3 จำนวน – ไร่ – N จำนวน – ไร่
1.7 แหล่งน้ำเพื่อทำการเกษตรในพื้นที่ มี หรือ ไม่
– ลำห้วยทาเล็ก , หนองกระมัล
1.8 ชนิดพืชที่ผลิต (ระบุ) ข้าว
1.9 มาตรฐานที่ใช้ในการผลิต
– เมล็ดพันธุ์ข้าว สมาชิก 45 ราย จำนวน 350 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 430 กก./ไร่
– GAP สมาชิก – ราย จำนวน – ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย – กก./ไร่
-Organic สมาชิก 30 ราย จำนวน 150 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 420 กก./ไร่
1.10 ผลผลิตรวม 384 ตัน
1.11 ข้อมูลผู้บริหารจัดการกลุ่ม
1. ผู้จัดการแปลง เกษตรอำเภอขุนหาญ
2. ผู้ช่วยผู้จัดการแปลง เกษตรตำบลโพธิ์วงศ์
3. ประธานกลุ่ม (ชื่อ-สกุล) นายสิทธิ์ศักดิ์ ศักดิ์ศิริโชติ หมายเลขโทรศัพท์ 092-5533-139
1.12 ที่ตั้งที่ทำการกลุ่มฯ เลขที่ 9 หมู่ที่ 3 บ้าน กระมัล
ตำบล โพธิ์วงศ์ อำเภอ ขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ
1.13 พิกัดแปลง (จำนวน 5 จุดหลัก)
– ทิศเหนือ x = 444351 y = 1622859 – ทิศใต้ x = 438723 y = 1621664
– ทิศตะวันออก x = 439836 y = 1621008 – ทศตะวันตก x = 439562 y = 1622322
– จุดกึ่งกลาง x = 439510 y = 1621802
2. เป้าหมายการพัฒนา
2.1 ลดต้นทุนการผลิต (ต้องลดลงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10)
– ต้นทุนการผลิต (เดิม) 2,900 บาท/ไร่
– ต้นทุนการผลิต (เป้าหมาย) 2,540 บาท/ไร่
– คิดเป็นร้อยละของต้นทุนที่ลดลง 12.4 ตัวอย่างตารางจำแนกต้นทุนการผลิต/ไร่ (โดยละเอียด) ดังนี้
หมายเหตุ : 1. ให้อธิบายรายละเอียดในแต่ละกิจกรรม เช่น
1.1 อัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ (เดิม) กี่กิโลกรัม/ไร่ (เป้าหมาย)กี่กิโลกรัม/ไร่
1.2 การใส่ปุ๋ย (ใส่กี่ครั้ง/ ใช้สูตรใด/ อัตราเท่าไหร่) ทั้งในส่วนของปุ๋ยอินทรีย์ และปุ๋ยเคมี
1.3 การใช้สารป้องกันกำจัดวัชพืช/ศัตรูพืช (ใช้กี่ครั้ง/ อัตราเท่าไหร่)
2.2 เป้าหมายการเพิ่มผลผลิต (ต้องเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10)
– ผลผลิต (เดิม) 420 กิโลกรัม/ไร่
– ผลผลิต (เป้าหมาย) 470 กิโลกรัม/ไร่
– คิดเป็นร้อยละของผลผลิตที่เพิ่มขึ้น 11.90
2.3 การเพิ่มมูลค่าผลผลิต เช่น
– การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวตามมาตรฐาน จำนวน 45 ราย พื้นที่จำนวน 350 ไร่
(ราคาสินค้าเมล็ดพันธุ์ข้าว – บาท/กก. ราคาสินค้าทั่วไปของกลุ่ม 13.80 บาท/กก. เพิ่มขึ้น – บาท/กก.)
– การผลิตสินค้าตามมาตรฐาน GAP จำนวน ราย พื้นที่จำนวน – ไร่
(ราคาสินค้า GAP บาท/กก. ราคาสินค้าทั่วไปของกลุ่ม – บาท/กก. เพิ่มขึ้น บาท/กก.)
– การผลิตสินค้าตามมาตรฐาน Organic จำนวน 30 ราย พื้นที่จำนวน 150 ไร่
(ราคาสินค้า Organic – บาท/กก. ราคาสินค้าทั่วไปของกลุ่ม 13.80 บาท/กก. เพิ่มขึ้น – บาท/กก.)
2.4 การบริหารจัดการกลุ่ม (มีแผนและแนวทางในการบริหารจัดการกลุ่ม) ดังนี้
1. มีแผนในการบริหารจัดการกลุ่มด้านใด อย่างไรบ้าง (อธิบาย)
1.1 แผนการบริหารจัดการกลุ่ม
– จัดทำโครงสร้างกลุ่ม และคณะกรรมการกลุ่มย่อยรับผิดชอบงานด้านต่างของกลุ่ม กรรมการกลุ่มและสมาชิกทุกคนรู้บทบาทหน้าที่ของตน
– จัดประชุมวางแผน รายงานผลการดำเนินกิจกรรมกลุ่มสม่ำเสมอ
– สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรมของกลุ่ม
1.2 การบริหารจัดการเครื่องจักรกล
– กลุ่มยังไม่มีการจัดซื้อเครื่องจักรกล
1.3 การบริหารจัดการผลผลิตกลุ่ม
– ผลผลิตของสมาชิกสามารถนำมารวมกันจำหน่าย หรือหากสมาชิกมีช่องที่สามารถจำหน่ายได้สูงกว่าก็ให้จำหน่ายแยกได้
– การจัดการผลผลิต แบ่งเป็น 4 ส่วน ดังนี้
1. จำหน่ายข้าวเปลือกสด,แห้ง
2. จำหน่ายเป็นเมล็ดพันธุ์
3. แปรรูปเป็นข้าวสาร
4. เก็บไว้บริโภคในครัวเรือน
1.4 การจัดการด้านการตลาด
– จัดหาแหล่งรับซื้อผลผลิตที่มีคุณธรรม ให้แก่สมาชิก
– เพิ่มช่องทางการจำหน่าย
– ทำบันทึกข้อตกลงซื้อขายข้าวกับลานรับซื้อผลผลิตข้าว
2. มีแผนในการผลิตและพัฒนาคุณภาพผลผลิตอย่างไร (อธิบาย)
แผนการผลิต
1. ผลิตพันธุ์ข้าวที่มีความหลากหลายขึ้น เช่น ข้าวเหนียว ข้าวไรซ์เบอรี่ เป็นต้น
2. เพิ่มกิจกรรมความหลากหลายทางชีวภาพในแปลง
3. ผลิตข้าวโดยใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ 15 – 20 กก. /ไร่
4. ไม่ทำนาปรัง ปลูกพืชบำรุงดิน
5. ทุกแปลงแบ่งพื้นที่ผลิตเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เอง
แผนพัฒนาคุณภาพผลผลิต
1. ใช้เมล็ดพันธุ์จากแหล่งเชื่อถือได้ เก็บเมล็ดพันธุ์ใช้เองในปีที่ 2
2. มีการตัดพันธุ์ปนทุกแปลง ภายในปี 65
3.ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตเป็นเกษตรอินทรีย์ เพื่อขอรับรองมาตรฐาน ร้อยละ 75 ภายใน ปี 65 ได้รับรองมาตรฐานอินทรีย์ทุกแปลง ภายใน ปี 70
3. มีแผนการตลาดและแผนการพัฒนาด้านการตลาดอย่างไร (อธิบาย)
1. จัดหาแหล่งรับซื้อผลผลิตที่มีคุณธรรม ให้แก่สมาชิก
2. เพิ่มช่องทางการจำหน่าย
3. ทำบันทึกข้อตกลงซื้อขายข้าวกับลานรับซื้อผลผลิตข้าวในพื้นที่
2.5 การจัดการด้านการตลาด ดังนี้
1. สินค้าของกลุ่มประกอบด้วยอะไรบ้าง ปริมาณเท่าไร เช่น
1.1 สินค้า (ข้าว) ทั่วไป ผลผลิตรวม 6.5 ตัน ราคา 13,800 บาท/ตัน
1.2 สินค้า เมล็ดพันธุ์ข้าว ผลผลิตรวม 150 ตัน ราคา 20,000 บาท/ตัน
1.3 สินค้า GAP ผลผลิตรวม – ตัน ราคา – บาท/ตัน
1.4 สินค้า Organic ผลผลิตรวม 63 ตัน ราคา 13,800 บาท/ตัน
1.5 สินค้าแปรรูป ได้แก่ ข้าวสาร ปริมาณ 3 ตัน ราคา 35,000 บาท/ตัน
2. ตลาดในการจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม
2.1 ตลาดภายในประเทศ ที่ใดบ้าง คิดเป็นปริมาณเท่าไร (ตัน)
– โรงสีข้าวที่ทำ MOU ร่วมกัน จำนวน 70 ตัน
– โรงสีข้าว และพ่อค้าคนกลางทั่วไป จำนวน 70 ตัน
– การออกบู๊ตจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า จำนวน 4 ตัน
– การจำหน่ายผ่านช่องทาง e-commerce เช่น Facebook/ Line/ Instagramจำนวน 15 ตัน
2.2 ตลาดต่างประเทศ ที่ใดบ้าง คิดเป็นปริมาณเท่าไร (ตัน)
– ไม่มี
3. กิจกรรมเพื่อบรรลุเป้าหมาย (ให้อธิบายว่ามีวิธีการและขั้นตอนในการดำเนินการอย่างไร)
3.1 การลดต้นทุนการผลิต (ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10) เช่น
1. การใช้เครื่องจักรกลการเกษตร (รถเกี่ยวข้าว) ทดแทนแรงงานคน
2. ลดอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์/ไร่
3. ลดการใช้ปุ๋ยเคมี
4. ลดการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช/ ศัตรูพืช
3.2 การเพิ่มผลผลิต (ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10) เช่น
1. ไถกลบตอซัง
2. หว่านพืชตระกูลถั่วแล้วไถกลบ
3. ใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน
4. ปรับเปลี่ยนวิธีการทำนาจากเดิมนาหว่าน เป็นนาหยอด นาดำ
3.3 การพัฒนาคุณภาพผลผลิต เช่น
1. อบรมเกษตรกรตามกระบวนการโรงเรียนเกษตรกร
2. การวางแผนการผลิตของสมาชิกตามมาตรฐานเมล็ดพันธุ์ข้าว/ GAP/ Organic
3. การตรวจรับรองมาตรฐานเมล็ดพันธุ์ข้าว/ GAP และ Organic
3.4 การบริหารจัดการ เช่น
1. แผนการบริหารจัดการกลุ่ม
2. การบริหารจัดการเครื่องจักรกล
3. การบริหารจัดการผลผลิตกลุ่ม
4. การจัดการด้านการตลาด
3.5 การตลาด เช่น
1. ตลาดภายในประเทศ
– การทำทำ MOU ร่วมกันผู้ประกอบการโรงสีข้าว/ สกต.
– โรงสีข้าว และพ่อค้าคนกลางทั่วไป
– การออกบู๊ตจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า
– การจำหน่ายผ่านช่องทาง e-commerce เช่น Facebook/ Line/
2. การจำหน่ายภายในประเทศ/ต่างประเทศ
4. การเปลี่ยนแปลง เช่น
4.1 ต้นทุนการผลิตต่อไร่ลดลงเมื่อเทียบกับการทำนาหว่าน
– นาหว่านต้นทุน 2,900 บาท/ไร่
– นาหยอดต้นทุน 2,768 บาท/ไร่ ลดลง 432 บาท/ไร่ คิดเป็น 13.5 %
– นาดำต้นทุน 2,600 บาท/ไร่ ลดลง 600 บาท/ไร่ คิดเป็น 18.75 %
4.2 ผลผลิตต่อไร่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับการทำนาหว่าน
– นาหว่านผลผลิต 420 กก./ไร่
– นาหยอด 420 กก./ไร่ เพิ่มขึ้น – กก./ไร่ คิดเป็น – %
– นาดำ 420 กก./ไร่ เพิ่มขึ้น – กก./ไร่ คิดเป็น – %
4.3 ผลผลิตมีคุณภาพและมาตรฐาน เช่น
– มาตรฐาน GAP
– มาตรฐาน Organic
4.4 มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้น เช่น
– ตลาดภายในประเทศ ได้แก่
– ตลาดต่างประเทศ ได้แก่
4.5 มีการบริหารจัดการด้านต่างๆ เช่น
– แผนการบริหารจัดการกลุ่ม
– การบริหารจัดการเครื่องจักรกล
– การบริหารจัดการผลผลิตกลุ่ม
– การจัดการด้านการตลาด
5. มูลค่าเพิ่มจากการพัฒนา เช่น
5.1 ราคาของสินค้าเพิ่มขึ้นจากเดิมราคา 12 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 13.80 บาท/กก.
คิดเป็น 38 %
5.2 รายได้ที่เพิ่มขึ้น/ไร่ จากเดิม 5,040 บาท/ไร่ เป็น 5,796 บาท/ไร่
เพิ่มขึ้น 756 บาท/ไร่ คิดเป็น 15 %
6 เป้าหมายในการพัฒนา 5 ด้าน
6.1 การลดต้นทุน ร้อยละ 10
1 ใช้เครื่องจักรกลทดแทนแรงงานคน
2 ลดปริมาณการใช้เมล็ดพันธุ์
3 ลดการใช้ปุ๋ยเคมี
4 ใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน
5 การใช้ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก
6 การผลิตสารชีวภัณฑ์ทดแทนการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช
7 รวมกลุ่มการชื้อปัจจัยการผลิต
6.2 การเพิ่มผลผลิต ร้อยละ 10
1. ใช้พันธุ์ดี
2. ใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน
3. ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ
6.3 การพัฒนาคุณภาพผลผลิต
1. อบรมเกษตรกรตามกระบวนการโรงเรียนเกษตรกร/ศึกษาดูงาน
2. 3.2 ขอรับการตรวจมาตรฐานการผลิมาตรฐานพันธุ์ข้าว
– มาตรฐานพันธุ์ข้าว GAP
– มาตรฐานพันธุ์ข้าว Organic
6.4 การบริหารจัดการ
1 การบริหารจัดการเครืองจักรกล
2 การใช้รถไถ /เครื่องหยอด/รถเกี่ยวนวด
3 การรวบรวมผลผลิตกลุ่ม
4 ธนาคารปุ๋ย
5 การบริหารจัดการผลผลิตและการตลาด
6 ศูนย์ข้าวชุมชน
6.5 การตลาดเช่น
1 มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) ซื้อขายเมล็ดพันธุ์ข้าวร่วมกับ สกต. 2 จำหน่ายผลผลิตตามข้อที่ 1